อยากสอบติดตำรวจปีนี้ ควรอ่าน “นายร้อยตำรวจสายอำนวยการ”
หนังสือสอบสำหรับสอบนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ เป็นหนังสือสอบที่ควรค่าแก่การนำไปสอบอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการสอบตำรวจในสายงานข้าราชการสัญญาบัตร หรือ “นายร้อยตำรวจสายอำนวยการ” ในเล่มนี้มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มที่จะสอบตำแหน่งบุคคลภายนอกในปีนี้ และกลุ่มที่จะสอบเลื่อนตำแหน่งภายใน หนังสือสอบของนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ ของสถาบันติวสอบ The Best Center ที่การันตีคนสอบข้าราชการติดทุกคน รวมถึงในสายงานของนายร้อยตำรวจสายอำนวยการทั้งบุคคลภายนอกและภายในเช่นกัน จุดเด่นของเนื้อหา “นายร้อยตำรวจสายอำนวยการ” เป็นอย่างไรบ้าง โดยปกติแล้วงานในสายอำนวยการจะไปทางนายสิบมากกว่า แต่นายร้อยตำรวจสายอำนวยการจะไปทางสอบภายใน การที่จะสอบในสายงานข้าราชการสัญญาบัตร หรือนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ จะมีข้อได้เปรียบตรงที่ไม่ต้องทดสอบสมรรถภาพ แต่คะแนนสอบต้องมากกว่า 60% ของคะแนนสอบเต็มทั้งหมด ในส่วนของหนังสือนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ เรียกได้ว่าออกมาตรงแนวมากในส่วนของนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลภายนอกหรือบุคคลภายใน เนื้อหาที่อธิบายมีความครบถ้วน สมบูรณ์ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเตรียมตัวน้อย คนที่ไม่มีเวลาไปติว หรือคนที่ฝันอยากเป็นตำรวจแต่ไม่สามารถไปนั่งติวสอบได้เหมือนคนอื่น หรือตอบโจทย์กลุ่มที่มีงบจำกัดแม้แต่ลงทุนไปติว แต่อยากเตรียมตัวสอบนายร้อยตำรวจสายอำนวยการ ที่กำลังจะเปิดรับสมัครในปี 2564 หนังสือเล่มนี้เป็นตัวเลือกที่ดี ซึ่งเป็นข้อสอบที่มีเนื้อหารวบรวมครบทุกหมวด ไม่ว่าจะวัดความสามารถทั่วไป ภาษาอังกฤษ หรือข้อสอบว่าด้วยระเบียบของตำรวจ และเจาะหมวดละเอียดมากในส่วนของงานสารบรรณ ซึ่งเป็น Scope ของการสอบเข้าในสายงานนายร้อยตำรวจสายอำนวยการอีกด้วย แต่ต้องทำการบ้าน เตรียมความรู้แน่นพอสมควร นอกจากนี้ในเล่มนี้ยังช่วยทุ่นแรงได้ดีมาก หากไม่เข้าใจอะไรสามารถทวนซ้ำในหนังสือนายร้อยตำรวจสายอำนวยการได้ตลอดเวลา นายร้อยตำรวจสายอำนวยการ…ช่วยอะไรบ้างในอนาคต แม้ว่านายร้อยตำรวจสายอำนวยการจะเปิดรับบุคคลภายนอกในปี 2564 แล้วก็ตาม […]
หาความสุขได้จากตัวเอง ด้วยหนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข
หนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข ของชาวญี่ปุ่นเล่มนี้จะทำให้คุณข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะไม่ใช้ทุกอย่างรอบข้างที่เราต้องเก็บมาคิดแล้วเราจะมีความสุข หนังสือเล่มนี้สามารถหาซื้อได้ที่ซีเอ็ดบุ๊ค ราคา 250 บาท ราคาเบามาก ถ้าเทียบกับความรู้ในหนังสือเล่มนี้ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข เขียนโดยชาวญี่ปุ่น หนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข เล่มนี้ถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้มันมีความพิเศษมากขึ้นไปอีก เพราะดังที่กล่าวไว้ตอนต้น สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ค่อนข้างรักษากฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน และใส่ใจในมารยาท การแสดงออกต่อผู้อื่นตามธรรมเนียม หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นสังคมที่แคร์คนอื่นมากที่สุดสังคมหนึ่ง เมื่อเทียบกันแล้วก็มีความคล้ายคลึงกับสังคมไทย ที่รักษาจารีตและลำดับอาวุโส ทั้งยังเป็นสังคมที่กังวลมากพอสมควรว่า ‘คนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร’ โกะโด โทคิโอะ ผู้เขียน เป็นผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน มุมมองของเขาต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้นน่าสนใจมาก เพราะแทนที่จะมุ่งเน้นให้เราทำงานเข้ากับผู้อื่นได้ดี จึงได้เขียนหนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข ขึ้นมาเขากลับสนับสนุนให้เรากล้าเป็นคนแปลก และกล้าปะทะกับผู้อื่นเพื่อแสดงความเป็นตัวเองออกมา กล้าแหกกฎ และกล้าทะเลาะกับคนอื่นแบบผู้ใหญ่ โทคิโอะให้ความเห็นว่า การทำเช่นนี้กลับจะทำให้มีคนอยากสนับสนุน ติดตามเรามากขึ้น หรือมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้อื่นมากขึ้น เพราะผู้อื่นเห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา ทั้งยังทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ถ้าคุณกำลังมองหาหนังสืดีดี สักเล่ม ที่จะพาคุณไปหาความสุขในการใช้ชีวิตได้ ต้องนึกถึงหนังสือเล่มนี้เลย เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข แค่ชื่อหนังสือ ก็ทำให้เรารู้สึกอยากอ่านเนื้อหาที่อยู่ข้างในแล้ว […]
เรียนรู้การใช้เวลาให้คุ้มค่า กับสุลักษณ์ ศิวลักษ์ นักเขียนชื่อดัง
หนังสือบางเล่มอ่านเพื่อให้ได้รู้ และมีสติในการใช้ชีวิตในต่ละวัน เพราะเวลามักเดินต่อไปข้างหน้าเสมอ หนังสือ เตรียมตัวตายอย่างมีสติ ของ สุลักษณ์ ศิวลักษ์ ก็เช่นกัน เป็นผลงานซึ่งได้เรียบเรียงและแปลจากพระนิพนธ์ของ องค์ทะไลลามะ และพระเกจิอาจารย์ดังชาวธิเบต ซึ่งว่าด้วยเรื่องของการเตรียมตัว เตรียมใจ และการนำศาสนาเขามาเป็นที่พึ่งเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้พ้นจากทุกข์ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจถึงการตายแล้วเกิดใหม่ และสถานภาพของการตายและเกิด ในแง่ของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน และนิกายสุขาวดี แค่เข้าใจก็จะไม่ยึดติด คำกล่าวของ สุลักษณ์ ศิวลักษ์ สุลักษณ์ ศิวลักษ์ ได้เขียนถึงเรื่องของ ความตายแม้ฟังดูน่ากลัวหดหู่ แต่ถ้าเรารู้จักความตายดีพอ จะพบว่ามันไม่ได้มีด้านลบอย่างเดียว หนังสือ เตรียมตัวตายอย่างมีสติ สามารถช่วยให้คุณเข้าใจความตายมากยิ่งขึ้นได้ หากเรามองว่าความตายคือเพื่อนที่ต้องพบเจอก็จะเบาใจได้ยิ่งขึ้น เพราะความตายของแต่ละคนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละคนตายไม่เหมือนกัน ความตายจึงไม่สำเร็จรูป เหตุที่ทำให้ความตายดูน่ากลัว เพราะเรารู้เกี่ยวกับมันน้อยมาก เพราะไม่เห็นว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มีการเกิดและตายในตัวเราอยู่ตลอดเวลา เช่น การตายของเซลล์ต่างๆ ที่สำคัญก็คือเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในนาทีที่ความตายมาถึง ชีวิตหลังความตายมีหรือไม่ เป็นเช่นไร และเราก็พยายามผลักไสความตายออกไปให้ไกลตัว ไกลความคิด รรมเนียมจีนโบราณ เมื่อใครฉลองแซยิดใหญ่แล้ว จะต้องตระเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับใส่ในวันตาย เพื่อช่วยเตือนสติ ไม่ให้ใช้ชีวิตโดยประมาท แต่ในสังคมปัจจุบัน ความตายทำให้เกิดการพลัดพราก […]
รีวิวนิยายรอยจาร ของปราณธร
ในสมัยก่อนไทยเรามีนิยายแนวข้ามชาติภพและกาลเวลาจำนวนมากซึ่งนักอ่านก็นิยมซื้อกันจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรมที่เป็นศูนย์รวมของนิยายแนวนี้เลยก็ว่าได้ จนไม่มีค่อยใครคิดจะหันไปมองนิยายแนวนี้ในสำนักพิมพ์อื่นแล้ว แต่ในขณะนั้นเองนิยายสำนักพิมพ์แจ่มใสเล่มหนึ่งก็ได้สร้างปรากฏการณ์ให้มีคนอีกหลายกลุ่มที่เป็นคอนิยายแนวข้ามภพชาติได้หันมาแบบหลงใหลพอ ๆ กัน นั่นก็คือนิยายเรื่อง “รอยจาร” ของนักเขียนมากฝีมืออย่าง “ปราณธร”นี่เอง และนิยายรอยจารก็เป็นอีกเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ท่านเลย หากอยากรู้ว่านิยายแนวข้ามภพชาติและกาลเวลาของเรื่องนี้จะมีความสนุกแตกต่างจากเรื่องอื่นอย่างไรจึงทำให้มีคนสนใจอย่างล้นหลามได้จนได้รับการตีพิมพ์ใหม่กับสำนักพิมพ์คำต่อคำ วันนี้เราจะมารีวิวให้คุณรู้กัน เรื่องย่อนิยายรอยจาร ของปราณธร นิยายรอยจาร ของปราณธร ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ธันย์”ชายหนุ่มผู้ที่สามารถมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณได้ เขาใช้ชีวิตอันสุขสงบในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวที่จังหวัดเพชรบุรี จนกระทั่งได้มีโอกาสพบเจอกับ “การเวก” หญิงสาวผู้มีรอยจารที่โคนนิ้วมือเป็นรูปแหวนทำให้อดีตชาติที่เขาเคยเป็น “จ้าวผีดำดินแห่งคามศรีเวท”ที่ยกพลมาตีเมืองเพชรบุรีและเธอที่เคยเป็นลูกสาวของครูดาบบ้านลาดได้หวนกลับมาอีกครั้ง ธันย์ควรจะทำอย่างไรเมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงบุคคลที่เป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมความรักในอดีตชาติของทั้งสองได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง…ในชาตินี้ชายหนุ่มจะสามารถช่วยการเวกได้หรือไม่ ความน่าสนใจของนิยายรอยจาร ของปราณธร นิยายรอยจาร ของปราณธร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการข้ามภพชาติที่พระเอกสามารถจดจำอดีตชาติของตัวเองได้เมื่อพบเจอกับนางเอกที่ชาติก่อนเคยเป็นลูกสาวของครูดาบที่ถูกธันย์ซึ่งในอดีตเป็นหัวหน้ากองกำลังศัตรูที่คิดจะมาครอบครองเมืองเพชรบุรีที่เกิดหลงรักเธอจึงจับตัวเธอมา แต่เพราะความหึงหวงของนางร้ายที่เขาต้องถูกตามราวีแบบหึงหวงทั้งในชาติปัจจุบันและอดีตชาติทำให้นางเอกต้องตายพร้อมกับความเกลียดชังในตัวของพระเอกที่เป็นศัตรูฆ่าพ่อแม่พี่ชายของเธอ แต่ในใจลึก ๆ ก็รัก ซึ่งครั้งแรกที่ทั้งสองเจอกันในชาติปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก เป็นเพียงสถานะคนรู้จัก แต่เรื่องจะมาพีคก็ตรงที่นางเอกเกิดอุบัติเหตุจนถูกดึงให้ย้อนมาเป็นตัวเองในอดีตชาติจนได้พบกับพระเอกผู้อยู่ในฐานะศัตรูของบ้านเมืองนี่ล่ะจึงกลายมาเป็นจุดพลิกผันความรัก ความเกลียดชัง ความหวงแหน และคำสาบานที่ไม่ต่างกับคำสาปของพระเอกที่ขอเป็นเจ้าของนางเอกทุกชาติไปจึงได้ทำรอยจารที่มีสลักสิ่งของล้ำค่าไว้ภายในโคนนิ้วของนางเอก ซึ่งนักเขียนได้สร้างคาแร็กเตอร์ทุกตัวละครให้มีความโดดเด่นทั้งตัวพระนาง พระรองที่เป็นพี่ชายซึ่งรักนางเอกจนยอมเสียสละชีวิตและมาเกิดใหม่เป็นพี่ชายต่างสายเลือดที่มีความเย็นชาแต่ก็ยังมีใจรักนางเอกในชาติปัจจุบัน นางร้ายที่เต็มไปด้วยแรงรักหึงหวงข้ามภพเหมือนคนติดบ่วง และตัวประกอบอื่นที่ได้มาเกิดใหม่มีความเชื่อมโยงกับอดีตชาติ แถมยังอ้างอิงประวัติศาสตร์เมืองเพชรบุรีที่เราไม่เคยได้รู้มาก่อนด้วย ข้อคิดดี ๆ จากนิยายรอยจาร ของปราณธร นิยายรอยจาร ของปราณธร […]
รีวิวนิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป
หลายคนอาจจะเคยอ่านนิยายข้ามกาลเวลามามากมายและรู้สึกชอบไปกับการเข้าถึงอารมณ์ที่ตัวละครจากยุคปัจจุบันได้ไปเห็นสิ่งแปลกใหม่ในอดีตที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนจนกลายเป็นสิ่งที่ชวนให้น่าลุ้นมากมาย วันนี้เราก็จะขอมาแนะนำนิยายแนวข้ามกาลเวลาอีกเรื่องหนึ่งที่อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมาก นั่นก็คือ “พิภพเพลินวาน” ของภัทราธิป ซึ่งเป็นนิยายที่ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ในเครือสถาพรบุ๊คส์นั่นเอง ยิ่งหากใครที่ชอบนิยายพีเรียดในยุคสมัยโมเดิร์น นิยายเรื่องนี้ก็ยิ่งตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดียิ่ง เรื่องย่อนิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป นิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เพลิน” หญิงสาวช้ำรักจากการที่ถูกคนรักของตัวเองหลอกตั้งใจจะไปหามุมสงบ ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อผ่อนคลาย แต่โชคชะตาทำให้เธอเกิดอุบัติเหตุตกจากท่าน้ำคุณยายว่าที่คนรักของเธอและย้อนอดีตไปสู่ปีพุทธศักราช 2460 จนเจอกับ “หม่อมเจ้าชายพิภพ” เจ้าของบ้านผู้ได้ช่วยชีวิตเธอไว้! ความน่าสนใจของนิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป นิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป อาจจะเป็นนิยายแนวข้ามกาลเวลาที่มีพล็อตไม่แตกต่างจากนิยายแนวเดียวกันเรื่องอื่น ๆ และไม่มีเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่อ้างอิงมาเพื่อให้เรื่องเกิดความน่าตื่นเต้นและโดดเด่นได้ แต่สิ่งที่ทำให้เราซึ่งเป็นคนอ่านรู้สึกชอบก็ตรงที่เรื่องมีการแสดงวิถีชีวิตและมุมมองของคนในยุครัชกาลที่ 6 ซึ่งมีความเรียบง่ายแต่ก็อยู่ในช่วงที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเข้ามาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนและแนวคิดตะวันตกซึ่งนางเอกของเราก็ได้เข้าไปอยู่ในวังวนความวุ่นวายในบ่วงรักของ “หม่อมเจ้าพิภพ”พี่ชายคนโตแสนเคร่งขรึมแห่งวังสุริยศักดิ์ ,“หม่อมเจ้าชายจักราวุธ”ชายรองผู้อ่อนโยน และ “หม่อมเจ้าชายเจตต์นที”ชายเล็กผู้ร่าเริงและมีความเป็นมิตรสูงซึ่งแม้แต่ละคนจะเป็นพี่น้องต่างมารดา แต่ก็ดูรักกันดี นักเขียนมีความใส่ใจในการถ่ายทอดมุมมองความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตและการมองโลกของหม่อมเจ้าทั้งสาม พระเอกของเราก็ฝังใจจากการที่ไม่สามารถช่วยน้องสาวที่จมน้ำเสียชีวิตได้ ท่านชายจักรก็ขาดความอบอุ่นเพราะมีอดีตความรักเกี่ยวกับมารดาของตัวเอง ส่วนชายรองก็เป็นคนที่มองโลกในแง่บวกจนบางทีก็ขาดความเป็นผู้ใหญ่ แต่สุดท้ายเรื่องราวความดราม่าแท้จริงจะมาพลิกตรงที่ความไม่ยอมปล่อยมือของชายจักรที่มีต่อนางเอกจนถึงขั้นแสดงให้เราเห็นว่าความอยากครอบครองสามารถเอาชนะความอ่อนโยนที่ฉาบบนใบหน้าได้ แต่ตัวร้ายก็มีหัวใจเช่นกัน ยิ่งร้ายมากยิ่งน่าสงสารมาก ซึ่งตอนหลังคำมั่นสัญญานี่ล่ะจึงนำมาซึ่งการคนสามคนจะได้กลับไปเจอกันอีกครั้ง ทำให้ตัวเรื่องมีความน่าลุ้นกว่านิยายอื่นก็ตรงนี้ แต่คอมเมดี้ที่เราชอบก็มีตรงจุดที่พระเอกได้มีโอกาสมาเห็นโลกในอนาคตนี่ล่ะ เอ็นดูจริง ข้อคิดดี ๆ จากนิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป นิยายพิภพเพลินวาน ของภัทราธิป ได้สอนให้เรารู้ว่า […]
หนังสือ ศูนย์รับฝากความเสียใจ อีกหนึ่งที่พึ่งทางใจ
เป็นอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เชื่อว่าทุกคนคงเคยมีเรื่องให้รู้สึกเสียใจ แล้วเมื่อเวลาที่เราเสียใจทำอย่างไรกันบ้าง บางคนก็คงระบายความเสียใจนั้นให้กับเพื่อนสนิทฟัง หลายคนก็เลือกบอกเล่าผ่าน Facebook แต่ก็ยังมีคนบางส่วนที่ระบายเรื่องราวของตนเองผ่านทางรายการเราจะเห็นได้อย่างรายการพี่อ้อยพี่ฉอด หรืออย่างรายการพุธทอล์คพุธโทร แล้วแต่ว่าเราจะมีวิธีกันอย่างไร แต่หากว่ามีสถานที่มารับฝากความเสียใจของเรา หนังสือที่จะเป็นตัวช่วยดีดีของเราได้ ก็คือ ศูนย์รับฝากความเสียใจ ศูนย์รับฝากความเสียใจ จากซื่ออี ในหนังสือได้แบ่งเรื่องราวออกเป็นตอนสั้น ๆ โดยจะมีเป็นที่เกี่ยวโยงกันทั้งหมด 5 ตอน โดยเหนตุการณ์หนึ่งในอดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเสียใจและเป็นเหตุให้ตัวละครทุกตัวนั้นมาที่ ศูนย์รับฝากความเสียใจ เพื่อรับการเยียวยาความผิดหวังและความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ซึ่งที่ ศูนย์รับฝากความเสียใจ นี้เราจะได้พบเจ้าหน้าที่รับฝาก หงเฮ่า ซึ่งเขาผู้นี้จะคอยให้บริการ คำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับ “ศูนย์รับฝากความเสียใจ” ร่วมทั้งการพูดคุยและตอบคำถามผู้ใช้บริการเรื่อง ศูนย์รับฝากความเสียใจเล่มนี้เขียนโดย ซื่ออี จากสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคาเล่มละ 245 บาท เรื่องราวในหนังสืออยู่ที่ไทเปค่ะ เรื่องราวเกิดขึ้นจากเด็กสาวคนนี้ ในขณะที่เธอนั่งรถไฟใต้ดินเพื่อที่จะกลับบ้านในขณะที่ขบวนรถไฟไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบ ผู้คนบนรถไฟใต้ดินไม่ได้เยอะ เหลือที่นั่งหลายที่บนรถไฟใต้ดินกลับมีชายชราคนหนึ่งมานั่งข้างเด็กสาว เธอรู้แค่เพียงว่าเขาเป็นชายชราแต่ด้วยความไม่สนใจจึงไม่ได้จดจำใบหน้าชายชราคนนั้น จนกระทั้งชายชราลืมถุงกระดาษทิ้งไว้บนรถไฟใต้ดิน และเด็กสาวก็พยายามที่จะนำถุงกระดาษนั้นคืนให้กับชายชรา จากจุดเริ่มต้นของเรื่องเราก็จะได้พบสถานที่ที่เรียกว่า ศูนย์รับฝากความเสียใจ เลย กฎต่าง ๆ ของ ศูนย์รับฝากความเสียใจ […]
หนังสือ เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น แปลโดย ฉัตรขวัญ อดิศัย
ในช่วงนี้ยังคงอยู่อยู่บ้านยาว ๆ เลยค่ะ ทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดถึงกลิ่นกาแฟที่หอมละมุน ฟังเพลงคลอสบาย ๆ แต่เมื่อเพื่อให้คลายความคิดถึง ก็มีเพื่อนผู้ใจดีให้ยืมนิยายน่าอ่านมาหนึ่งเล่ม เรื่อง เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น หนังสือที่ให้คำตอบ ในคำถามนี้ ทุกคนไม่สามารถกลับไปแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตได้ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ หากเราย้อนกลับไปได้แต่ไม่สามารถแก้ไขอะได้ได้เลย หนังสือเล่มนี้ เขียนโดย Toshikazu Kawaguchi โทชิคาซึ คาวางุจิ และได้ถูกแปลโดย ฉัตรขวัญ อดิศัย นักแปลชื่อดัง ที่มีสำนวนสละสลวยเข้าใจง่าย จากสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคาเล่มละ 245 บาทเท่านั้นเอง เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น หนังสือที่จะทำให้รู้ว่า อดีตคือสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ หนังสือ เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น เล่มนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับร้านกาแฟร้านหนึ่ง ที่สามารถพาเราย้อนกลับไปในอดีตได้เพียงแต่ว่ามีกฎอยู่ 5 เริ่มด้วย แม้กลับไปในอดีตแล้ว ก็ไม่สามารถเจอคนที่ไม่ได้มาเยือนร้านกาแฟนี้ได้ แม้กลับไปในอดีต แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ความเป็นจริงก็ไม่เปลี่ยนแปลง หากในอดีตที่ย้อนกลับไปมีลูกค้านั่งอยู่ จะไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปได้ นอกจากลูกค้าคนนั้นจะลุกออกไปเท่านั้น แม้จะย้อนไปในอดีต แต่จะไม่สามารถลุกหรือย้ายออกจากที่นั่งได้ การจะกลับไปในอดีตได้คือหลังจากที่รินกาแฟใส่ถ้วยแล้วและอยู่ได้แค่ช่วงก่อนที่กาแฟนั้นจะเย็นชืดเท่านั้น และนอกจากจะย้อนอดีตแล้วก็ยังสามารถไปอนาคตได้อีกด้วย ในโลกของความเป็นจริงนั้นเราทุกคนล้วนไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้ แต่การที่ตัวละครในหนังสือแต่ละคนได้ย้อนกลับไปเห็นอดีตของตนเองนั้น […]
หนังสือ ดูห้องก็รู้อนาคต จะทำให้คุณเปลี่ยนเป็นคนใหม่
แต่เชื่อไหมว่า หากคุณกล้าทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป คุณจะกลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะการยึดติดกับความสำเร็จ ยึดติดกับอดีตและสิ่งของ จะทำให้เราไม่เกิดการพัฒนา หรือจะพูดความพอใจความสำเร็จเป็นสิ่งฉุดรั้งไม่ให้เกิดการพัฒนาก็ไม่ผิดนัก และที่สำคัญคือห้องหรือบ้านของคุณจะได้ไม่รก เพื่อที่จะมีพื้นที่ว่างเพื่อต้อนรับสิ่งของอื่น ๆ ต่อไป ในปี 2020 นี้ มีหนังสือออกมาใหม่มากมาย ล้วนแต่เป็นหนังสือดีดีทั้งนั้น รวมถึงมีหนังสือจิตวิทยาและพัฒนาตนเอง หรือหนังสือการเงิน รวมถึงหนังสือที่ว่าด้วยการจัดระเบียบออกวางจำหน่ายกันเยอะมาก ๆ เช่น ดูห้องก็รู้อนาคต โดยเฉพาะหนังสือที่แปลมาจากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น เคยไหมที่เวลาเรามีความสุขในสถานที่ที่หนึ่ง เช่น ที่ทำงาน แต่พอกลับมาบ้าน ความสุขหรือความกระปรี้กระเปร่ากลับหายไปซะดื้อ ๆ บางครั้งตั้งใจว่ากลับมาบ้านจะปัดกวาดสะหน่อย ก็ล้มเลิกไปสะอย่างงั้น ด้วยสาเหตุที่เข้าข้างตัวเองสุด ๆ เลยคือ ไม่มีกำลังใจจะทำ ดูห้องก็รู้อนาคต หนังสือขึ้นชื่อของ ญี่ปุ่น ในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่ออย่างยิ่งในเรื่องของระเบียบ จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักจะได้อ่านหนังสือแปลญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบชีวิต การทำงาน หรือแม้กระทั่งการจัดระเบียบห้องอยู่บ่อย ๆ และในครั้งนี้เราจะไปเรียนรู้การจัดระเบียบห้องแบบเหนือชั้นจากปกติ นี่ไม่ใช่การจัด ทำความสะอาดห้องธรรมดา แต่เป็นการจัดระเบียบห้องที่จะสามารถทำนายและเปลี่ยนอนาคตได้เลยทีเดียว ด้วยประสบการณ์การดูห้องมามากว่า 21 ปีของคุณมะสึดะ มิทสึอิโระ ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูห้องและทำความสะอาด จะมาอธิบายและทำนายอนาคตของคุณผ่านห้องของคุณ ซึ่งตอนนี้ความมหัศจรรย์ได้มาอยู่ในรูปแบบหนังสือชื่อ ดูห้องก็รู้อนาคต […]
หนังสือ Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา หนังสือดี ๆ ที่นำทางไปสู้ความสำเร็จ
การอ่านหนังสือถือเป็นการเปิดโลกกว้าง ให้ความรู้ ให้ความเข้าใจ ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้หรือเข้าใจมาก่อน หนังสือนั้นมีหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกอ่านกัน มีหนังสือประเภทหนึ่งที่ในปัจจุบันได้มีการพิมพ์หนังสือประเภทนี้ออกมาเรื่อย ๆ นั่นคือ หนังสือพัฒนาตนเอง เช่น หนังสือ Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา เป็นหนังสือที่เมื่อเราอ่านแล้ว สามารถปรับเปลี่ยนความคิดหรือวิธีคิดใหม่ ๆ ให้กับเราได้ เป็นหนังสือที่สามารถอ่านได้อยู่ตลอด เรียนรู้ความสำเร็จจาก หนังสือ Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา คงเป็นเรื่องที่ยาก หากเราจะเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เป็นอยู่ให้ทำในสิ่งที่ช่วยให้เกิดความสำเร็จในชีวิต หนังสือ Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตาจึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยให้คุณเดินไปในทางที่ถูกความหมายของ Mindset อาจจะไม่ตรงกัน แต่ทั้งหมดล้วนเป็นการกำหนดทิศทางของชีวิตด้วย “วิธีคิด” ทั้งนั้น ก่อนหน้านี้เราอาจจะฟังแล้วรับเอาความคิดเหล่านี้เข้าไปใช้ในชีวิตหรือบ้างก็ปฏิเสธมันไป พอมันเป็นเรื่องของความคิดมันเลยดูจับต้องไม่ได้ ทำให้บางทีก็กลับมาหลงทางได้ง่าย ๆ ความคิดที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เป็นหนังสืออีกเล่มที่น่าอ่าน เพราะจะทำให้เราได้จัดการกับความคิดของเรา เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิต หนังสือ Mindset ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตาเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นโดย Carol S. Dweck นักจิตวิทยาชื่อดังจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ค้นพบว่าความสำเร็จในชีวิตขึ้นอยู่กับความคิด 2 แบบ แบบหนึ่งจะทำให้คุณประสบความสำเร็จแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ […]
เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข หนังสือที่จะพาไปหาความสุข
ถ้าคุณกำลังมองหาหนังสืดีดี สักเล่ม ที่จะพาคุณไปหาความสุขในการใช้ชีวิตได้ ต้องนึกถึงหนังสือเล่มนี้เลย เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข แค่ชื่อหนังสือ ก็ทำให้เรารู้สึกอยากอ่านเนื้อหาที่อยู่ข้างในแล้ว โดยหนังสือเล่มนี้จะเขียนทั้งเรื่องงานและชีวิต อ่านแล้วจะทำให้เราการกล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ชอบ สิ่งที่ทำไม่ได้ และไม่ถูกคนอื่นเอาเปรียบอีกต่อไปด้วย ทุกคนต้องการเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยอมรับกันทั้งนั้น แต่บางคนก็แคร์สายตาคนอื่นมากไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายก็กดดันและเป็นทุกข์ หนังสือจะช่วยให้คุณกล้าเป็นตัวเองมากขึ้น และแคร์สายตาคนอื่นน้อยลง เลิกเป็นตัวเองที่คนอื่นชอบ หันมาเป็นตัวเองที่อยากเป็น แล้วจะใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข เขียนโดยชาวญี่ปุ่น หนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข เล่มนี้ถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนชาวญี่ปุ่น ก็ยิ่งทำให้มันมีความพิเศษมากขึ้นไปอีก เพราะดังที่กล่าวไว้ตอนต้น สังคมญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ค่อนข้างรักษากฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกัน และใส่ใจในมารยาท การแสดงออกต่อผู้อื่นตามธรรมเนียม หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นสังคมที่แคร์คนอื่นมากที่สุดสังคมหนึ่ง เมื่อเทียบกันแล้วก็มีความคล้ายคลึงกับสังคมไทย ที่รักษาจารีตและลำดับอาวุโส ทั้งยังเป็นสังคมที่กังวลมากพอสมควรว่า ‘คนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร’ โกะโด โทคิโอะ ผู้เขียน เป็นผู้บริหารบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน มุมมองของเขาต่อการทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้นน่าสนใจมาก เพราะแทนที่จะมุ่งเน้นให้เราทำงานเข้ากับผู้อื่นได้ดี จึงได้เขียนหนังสือ เลิกเป็นคนดี แล้วชีวิตจะมีความสุข ขึ้นมาเขากลับสนับสนุนให้เรากล้าเป็นคนแปลก และกล้าปะทะกับผู้อื่นเพื่อแสดงความเป็นตัวเองออกมา กล้าแหกกฎ และกล้าทะเลาะกับคนอื่นแบบผู้ใหญ่ โทคิโอะให้ความเห็นว่า การทำเช่นนี้กลับจะทำให้มีคนอยากสนับสนุน ติดตามเรามากขึ้น หรือมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้อื่นมากขึ้น เพราะผู้อื่นเห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา […]