Category: รวมรีวิวหนังสือ

10 อันดับ หนังสือวรรณกรรมรางวัลซีไรต์เล่มไหนที่น่าอ่านที่สุด ตอนที่ 2

มาติดตามวรรณกรรมซีไรต์ที่น่าอ่าน ที่นำมาแนะนำในลำดับที่ 1-5 กันต่อในบทความตอนที่ 2 นี้กันต่อเลยค่ะ ลำดับที่ 5 วรรณกรรมซีไรต์ เรื่อง “ความสุขของกะทิ” ของ งามพรรณ เวชชาชีวะ เรื่องนี้เป็นวรรณกรรมสำหรับเยาวชนเล่มกะทัดรัด ดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่ายแต่งดงาม หลายคนอาจจะแปลกใจว่าหนังสือซีไรต์มีวรรณกรรมเยาวชนด้วยหรือ เพราะที่คุ้นเคยจะเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาหนักๆกันมากกว่า แต่วรรณกรรมเยาวชนเล่มนี้ก็คว้ารางวัลมาแล้วในปี พ.ศ.2549 ความสุขของกะทิเล่มนี้ ตีพิมพ์ซ้ำมาแล้วร่วม 100ครั้ง โดยเนื้อหาว่าด้วยเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 9 ขวบคนหนึ่งในสังคมชนบทที่แสนจะสงบสุขห้อมล้อมด้วยคุณตาคุณยายที่รัก แต่ใจในของเด็กหญิงกลับโหยหาแม่ที่รักยิ่งของเธอ เรื่องราวดำเนินอย่างเรียบง่าย ค่อยๆคลายปมพาผู้อ่านไปสู่คำตอบที่ว่าความสุขคืออะไร ในตอนท้าย เล่มนี้เหมาะกับการอ่านในช่วงเวลาสั้นๆ อันดับที่ 4 วรรณกรรมซีไรต์เรื่อง  “ อสรพิษและเรื่องอื่นๆ” ของ แดนอรัญ แสงทอง วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียนชั้นครู ที่ชวนลุ้นระทึกตลอดเรื่อง อสรพิษและเรื่องอื่นๆ เป็นหนังสือที่รวมรวมเรื่องสั้นทั้ง 12 เรื่องเข้าไว้ด้วยกัน มีเรื่องเอกคือ อสรพิษ ที่เล่าถึงเด็กชายในสังคมต่างจังหวัดที่มีความเชื่อในสิ่งลี้ลับอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในเรื่องของงู แต่ถึงแม้เป็นเรื่องราวของเด็ก แต่ในบรรยากาศของเรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่มีเด็กเป็นตัวเอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอสรพิษจะเร้าอารมณ์ให้ผู้อ่านได้ติดตามแล้วค่อยๆไต่ระดับความเข้มข้นจนไปถึงจุดสิ้นสุดของเรื่อง เปรียบเสมือนได้ดูหนังดีๆสักเรื่องเลยล่ะค่ะ ส่วนเด็กชายจะเอาตัวรอดอย่างไรจากความเชื่อและสิ่งลี้ลับต้องไปติดตามอ่านในเล่มให้ได้ อันดับที่ […]

10 อันดับ หนังสือวรรณกรรมรางวัลซีไรต์เล่มไหนที่น่าอ่านที่สุด ตอนที่ 1

เชื่อว่าหลายคนยังมีความรู้สึกเดิมๆว่าหนังสือรางวัลซีไรต์เป็นหนังสือที่อ่าน1ยาก เพราะเป็นหนังสือที่แฝงประเด็นต่างๆในสังคมๆว้มากมาย เพื่อให้ผู้อ่านต้องขบคิดและตีความ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความอ่านยากเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานซีไรต์ที่ยากจะพบในงานหนังสือเล่มอื่นๆ ด้วยความที่นักเขียนแต่ละคนต้องประชันความสามารถกันด้วยความสร้างสรรค์ จึงทำให้งานเขียนแต่ละเรื่องเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ แถมบางเล่มเป็นผลงานอมตะที่ถูกตีพิมพ์ซ้ำนับไม่ถ้วน บางเล่มก็เพิ่งจะตีพิมพ์ออกมาใหม่ไม่นาน ทำให้ชาวหนอนหนังสือได้สะสมกัน  และสำหรับใครที่กำลังมีความคิดว่าจะลองเริ่มอ่านงานซีไรต์ ในบทนี้เราจึงทำการแนะนำอันดับหนังสือ 10 อันดับหนังสือซีไรต์ จากนักเขียนชื่อดังหลายคน ซึ่งมีความน่าสนใจและคุ้มค่ากับการอ่านอย่างยิ่ง ไปดูกันเลยค่ะ อันดับที่ 10 วรรณกรรมซีไรต์เรื่อง “เจ้าหงิญ” ของบินหลา สันกาลาคีรี วรรณกรรมเรื่องนี้มีเรื่องราวเหนือจริงที่แฝงแนวคิดสุดสมจริงของเหล่าเจ้าหงิญ โดยหนังสือซีไรต์เรื่องนี้ได้รวบรวมเรื่องสั้นเบาๆเกี่ยวกับ เจ้าหงิญ ซึ่งเป็นเรื่องแฟนตาซีเหนือจริง 8 เรื่อง ที่มีจุดรวมคือตัวละครแต่ละตอนจะเป็นเจ้าหงิญ เล่มนี้อ่านค่อนข้างง่ายเพราะว่าเล่าเรื่องแบบนิทาน แต่เนื้อหาคมคายมาก แต่ละเรื่องจะสอดแทรกประเด็นทางสังคมให้ทุกคนได้ฉุกคิด โดนเน้นปัญหาครอบครัวเป็นหลัก ทั้งชีวิตคู่และการหย่าร้าง ถ้าใครกำลังสงสัยว่า ทำไมต้องสลับตัวอักษรจาก เจ้าหญิง เป็นเจ้าหงิญ ขอบอกว่าหากอ่านจนจบเล่มจะได้คำตอบแน่นอน อันดับที่ 9 วรรณกรรมซีไรต์เรื่อง “คนแคระ” ของวิภาส ศรีทอง ซึ่งเป็นหนังสือที่ชวนคุณลงไปดำดิ่งในจิตใจความเป็นมนุษย์ สำหรับคนที่ชอบอ่านแนวความลุ่มลึก หนักหน่วง เล่มนี้เหมาะกับคุณอย่างมาก คนแคระเป็นเรื่องราวของคน 3 คน เป็นเรื่องราวของการจับคนแคระมาขังไว้ในกรง และเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เรื่องนี้มีจุดเด่นทางภาษาเฉพาะตัวที่ค่อนข้างละเอียดยิบ […]

6 รูปแบบหนังสือแนะนำสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบจนถึงชั้นปฐมวัย และวัยอนุบาล

เพราะการอ่านหนังสือเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาชีวิตของคนในทุกวัย แต่สำหรับลูกน้อยของคุณการจะหาหนังสือเล่มแรกให้กับเค้า ที่เหมาะกับการพัฒนาการทางวัยและปูพื้นฐานให้เค้ารักรักอ่านตั้งแต่ยังเด็กถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกให้เหมาะสม บทความแนะนำหนังสือครั้งนี้ เราจึงมาแนะนำหนังสือประเภทของหนังสือสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่าหนึ่งขวบมาแนะนำ จะเป็นหนังสือแบบไหนบ้างตามไปดูกันเลยนะคะ 1.หนังสือที่เป็นผ้า หนังสือผ้าเป็นหนังสือที่มีความปลอดภัย เจ้าตัวเลขสามารถจับ กัดแทะเล่นได้ และเราสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะเวลาที่ลูกของคุณยังเด็กๆ แล้วเค้าต้องการจับของเค้าจะยังไม่รู้แรงของตัวเอง เค้าอาจจะดึงหนังสืออย่างแรง ทำให้หนังสือจะไปฟาดโดนหน้าโดนหัวหรือตัวของเค้าทำให้เจ็บได้ ดังนั้นหารใช้หนังสือผ้าจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยและดึงดูดความสนใจเจ้าตัวน้อย เพราะมีสีสันที่สวยงาม บางหน้าของหนังสือกะมีลูกเล่นที่หลากหลายให้กับเด็กๆ เช่น การแกะและติดกลับเข้าไปใหม่ได้ หรือบางเล่มอาจออกแบบมาเป็นหุ่นมือให้คุณพ่อคุณแม่ได้เล่นกับเค้าด้วย 2.หนังสือ แบบพลาสติกที่มีความนิ่ม เพราะข้างในบุด้วยฟองน้ำ หนังสือประเภทนี้จะเจ็บล้างความสะอาดได้ง่าย มีสีสันสดใส มีลูกเล่นหลากหลายเช่นกดแล้วมีเสียงดัง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสอนให้เจ้าตัวน้องรู้จักกับตัวเลข และรู้จักกับสีต่างๆในเบื้องต้น 3.หนังสือที่มีลูกเล่นกลไกลภายในเล่ม เมื่อเจ้าตัวน้อยของคุณเริ่มยืนเริ่มเดินได้ หนังสือแบบนี้จะเหมาะกับพวกเค้ามาก เพราะเป็นหนังสือที่ถูกออกแบบให้มีลูกเล่นที่หลากหลาย เช่น  สามารถชักกระดาษที่ถูกออกแบบมาในเล่มเพื่อให้รถเคลื่อนที่ได้ไปมา หรือชักเพื่อให้สัตว์ในหนังสือกระดิกหาง หรืออาจมีจุดให้เด็กๆสัมผัสกับพุงโตๆของตัวการ์ตูนสัตว์ในเล่ม เช่นพ่อหมีพุงโดผู้ผลิตก็อาจจะเอาเผ้านิ่มๆไปยัดไว้ให้ป่อง เด็กก็จะได้สัมผัส เป็นการดึงดูดความสนใจของเด็กๆ และทำให้เด็กๆได้ฝึกพัฒนาการให้กับเด็กๆได้เป็นอย่างนี้ อย่างไรก็ดี หนังสือพวกนี้จะทำสันหนังสือให้โค้งในไม่เป็นแหลมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจาดมุมแหลมของหนังสือได้ 4.หนังสือแบบเจาะรูเป็นรูปแบบต่างๆ เช่นวงกลม สี่เหลี่ยม  มีอีกหลายรูปแบบที่ทำขึ้น ตามความเติบโตตามช่วงอายุของเด็กๆ เช่น หนังสือเกี่ยวกับเรื่องของพาหนะต่างๆ ที่มีการเจาะรูตรงล้อรถ และที่มีคำอ่านแบบคล้องจอง ซึ่งคำคล้องจองนี้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่อ่านให้ฟังก็จะช่วยพัฒนาการฟังแบะการออกเสียงให้กับเด็กๆ  5. […]

รีวิวหนังสือออนไลน์ เพชรน้ำหนึ่ง นิยายรักที่ขมขื่นหัวใจลูกผู้หญิง

เพชรน้ำหนึ่ง เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นโดย บุรามฉัตร (นามปากกา) เป็นนิยายรักแนวดราม่าที่เกี่ยวข้องกับหญิงผู้สูงศักดิ์กับความรักที่เกี่ยวพันกับผู้ชาย 3 คน จนเกิดเป็นเรื่องราวความรักที่ทั้งสุข เศร้า และโรแมนติกครบทุกรสชาติ เรื่องย่อ เพชรน้ำหนึ่ง เพชรน้ำหนึ่งคือชื่อของนิยาย มาจากชื่อของนางเอก “น้ำเพชร” หญิงสาวที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ที่เพียบพร้อมทั้งรูปโฉม ทรัพย์สมบัติ และทุกอย่างที่แม่หญิงในยุคนั้นพึงมี (พอฟังแค่นี้ ผู้อ่านหลายคนต้องแอบอิจฉานางเอกแล้วใช่ไหมล่ะ เพราะเธอเป็นหญิงสาวที่เพอร์เฟคคนหนึ่งในยุคนั้นเลยก็ว่าไม่ผิด) ใช่แล้ว น้ำเพชรเป็นหญิงที่เป็นอึดมคติของชายในยุคนั้นที่หลายคนรู้สึกอิจฉาชีวิตเธอ แต่เห็นแบบนั้น แท้จริงแล้วเธอเป็นผู้หญิงที่อาภัพรัก เพราะในช่วงชีวิตของเธอนั้นได้พบเจอกับผู้ชาย 3 คนได้แก่ พันนาก พุ่มเงิน และทัพทอง แต่ความรักแต่ละครั้งก็มีอุปสรรคขวากหนามอยู่ตลอด จนทำให้ความรักไม่สมหวัง ความรู้สึกหลังจากได้อ่านนิยายเรื่อง เพชรน้ำหนึ่ง สำหรับนิยายเรื่องนี้ เราได้มีโอกาสซื้อมาอ่านเป็นฉบับ Ebook ของทาง Mebmarket สำหรับพล็อตเรื่องก็ไม่ได้แตกต่างจากนิยายรักพีเรียดทั่วไปเท่าไหร่ เพราะพล็อตแนวนี้มีเกลื่อนตลาดไป ยิ่งเรื่องนี้พล็อตเรื่องดันไปคล้ายกับเรื่องมาลัยสามชายของ ว.วินิจฉัยกุล ที่เรื่องนั้นตัวเอก (ละอออร) หญิงสาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยรูปทรัพย์และฐานะทางสังคม แต่ต้องมาอาภัพรักและต้องมาเกี่ยวข้องกับผู้ชาย 3 คนเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือเรื่องของสำนวนในการแต่ง บุรามฉัตร จะมีสำนวนที่ดูทันสมัยกว่า ถึงแม้จะมีคำยากบ้าง แต่โดยรวมก็ทำให้อ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย […]

พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2 ภาคต่อที่สรุปทุกปมของเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากละครอวสานไปแล้ว 2 ปีกว่าสำหรับละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ละครที่สร้างปรากฏการณ์ออเจ้าที่ดังที่สุดของประเทศไทยในปีนั้น และได้สร้างเรตติ้งสูงที่สุดของไทยไปแล้ว จนกระทั่งคุณหน่องอรุโณชาได้ออกมาประกาศว่าจะมีภาคต่อของบุพเพสันนิวาส เป็นบุพเพสันนิวาสภาค 2 ชื่อเรื่องว่า “พรหมลิขิต ซึ่งทางคุณรอมแพง เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้ก็แต่งเสร็จและวางจำหน่ายไปแล้วเมื่อปี 2562  เรื่องย่อ พรหมลิขิต วันเวลาผ่านไปหลายปี จนกรุงศรีอยุธยาเข้าสู่รัชสมัยของพระเจ้าท้ายสระ บ้านเมืองสงบร่มเย็น พ่อริด พ่อเรื่อง ลูกชายฝาแฝดของคุณหญิงกาละเกดและหมื่นสุนทรเทวาได้เติบใหญ่เป็นชายหนุ่มรูปงาม มีใบหน้าละหม้ายคล้ายผู้เป็นพ่อราวกับฝาแฝด  หมื่นมมหาฤทธิ์ได้พบกับหญิงสาวหน้าตาคล้ายกับคนเป็นแม่ ขณะที่เขาไปที่หลุมเก็บพระคัมภีร์กฤษณะกาลีที่ท้ายสวนของยายกุย หญิงผู้นั้นมีกิริยาท่าทางคำพูดคำจาที่คล้ายกับแม่กาละเกด แต่แตกต่างจากชาวกรุงศรี ทั้งสองต่างยื้อกันเรื่องคัมภีร์กฤษณะการีว่าเป็นของตน ทางฝ่ายแม่หญิงผู้นั้นก็อ้างว่าเธอต้องการคัมภีร์เล่มนั้นเพื่อที่จะได้กลับไปที่ที่เธอจากมาได้ ทั้งคู่จึงจำเป็นต้องไขปัญหาและที่มาเหล่านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และความลับบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องชาติภพของแต่ละคนก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยทีละน้อย และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในเรื่องพรหมลิขิตนี้ ความรู้สึกหลังได้อ่านนิยาย พรหมลิขิต ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราคาดหวังกับนิยายเรื่องนี้พอสมควร เพราะภาคแรกถือว่าทำได้ดีจนขึ้นหิ้งเลยทีเดียว มาภาค 2 คงได้แต่หวังว่าเนื้อหาจะไม่แป๊กเหมือนกับพวกละครภาคต่อเรื่องอื่น ๆ  สำหรับเรื่องนี้ ประเด็นหลักของเรื่องจะแตกต่างจากบุพเพสันนิวาสอย่างสิ้นเชิง เพราะบุพเพจะเน้นที่เรื่องเกี่ยวกับการเมืองสมัยพระนารายด์เป็นหลัก ส่วนพรหมลิขิตจะไม่ค่อยมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำไร่ทำสวนของนางเอกมากกว่า ส่วนบุคลิกของนางเอกก็แตกต่างจากแม่กาละเกด ซึ่งรายนั้นเขาจะเฮฮา สนุกสนานเหมือนเด็ก เก่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยา ส่วนพุดตานจะเป็นคนที่อารมณ์ร้ายกว่า (แต่ไม่ได้ร้ายนะ) จะไม่ค่อยมีความรู้ทางประวัติศาสตร์เท่าไหร่ แต่จะเก่งด้านการปลูกผัก แต่ทั้งคู่ก็ทำอาหารเก่งนะจ๊ะ […]

[รีวิว] นิยายเรื่อง ฆาตกาล (Hundred Year) นิยายสืบสวนข้ามกาลเวลาของภาคินัย

เรียกได้ว่าเป็นการรีวิวครั้งที่ 5 ของฉันที่ได้รีวิวนิยายของภาคินัย นั่นเป็นเพราะฉันเป็นแฟนตัวยงของนักเขียนท่านนี้ และชื่นชอบการอ่านนิยายแนวสืบสวนสอบสวน สยองขวัญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันไปเสียล่ะ ฆาตกาล มาจากการผสมระหว่างคำ 2 คำ คือ “ฆาตกรรม” ส่วนคำว่ากาลหมายถึง “กาลเวลา” ซึ่งความหมายโดยนัยของคำนี้ก็สื่อให้เห็นถึงเรื่องราวของหนังสือนิยายเล่มนี้ ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับฆาตกรรมโดยมีกาลเวลาเป็นตัวกำหนด เรื่องเริ่มต้นโดยตัวละครเอกที่ชื่อ เกิดต้น ชายหนุ่มเชื้อสายจีนที่เสียชีวิตในปี 2017 ด้วยโรคร้ายที่สมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีในการรักษา แต่ว่าครอบครัวของเขาอยากที่จะให้เขามีชีวิตอีกครั้ง เพราะว่าเขายังหนุ่ม ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ จึงนำร่างของเขาไปสู่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Cryonics หรือ การนำศพไปแช่แข็ง โดยครอบครัวเขามีความหวังว่าในอนาคต วันที่วิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า และมีเทคโนโลยีทีทันสมัยที่จะสามารถรักษาลูกชายของเขาให้หายจากโรคนี้ได้  เกิดต้นฟื้นขึ้นมาบนโลกนี้อีกครั้งในปี 2117 ปีที่โลกทั้งใบแตกต่างไปจากที่เขาเคยอยู่ เทคโนโลยีในโลกอนาคตทันสมัยจนเขาต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับตัวอยู่นาน แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกว่าการเกิดใหม่ของเขากลับกลายเป็นความซวยที่สุดในชีวิต เมื่อเขารู้ว่าตัวเขากำลังถูกปองร้ายจากฆาตกรที่เป็นใครสักคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของเขาเมื่อร้อยปีที่แล้ว เวลาผ่านไป 100 ปี “ลินิน” เหลนสาวของเกิดต้น ผู้ที่ได้รับมอบหมายตามพินัยกรรมในการดูแลรักษาร่างของคุณชวดเกิดต้น และพาเขาไปรักษาในวันที่เทคโนโลยีทันสมัย ลินินก็ทำตามคำสั่งที่ตระกูลของเธอได้รับมอบมาเป็นทอด ๆ โดยมีหมอเจโต คู่หมั้นของลินินและเป็นคุณหมอประจำตัวของคุณชวดเกิดต้นคอยรักษาเขาอยู่  นิยายเรื่อง ฆาตกาล เป็นนิยายแนวสืบสวนของภาคินัยที่มีความแปลกใหม่จากนิยายไทยโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแช่แข็งร่าง การการุณยฆาต […]

รีวิวนิยายพี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ ของล้านนาที

หลาย ๆ คนคงกำลังอยู่ในช่วงที่จะเข้ามหาวิทยาลัยไปพบเจอกับสังคมใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากสังคมเดิมในวัยมัธยมปลายใส ๆ ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีเฟรชชี่บางคนที่รู้สึกตื่นเต้นจนประหม่าทำตัวไม่ถูกเมื่อใกล้ถึงวันที่จะได้ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยหรือรั้วหอพักในวันแรก อย่ากังวลไปเลย วันนี้เราจะมาแนะนำนิยายที่จะเป็นเพื่อนรู้ใจร่วมก้าวเป็นเฟรชชี่ใหม่ไปพร้อมกับคุณ รับรองว่ายิ่งอ่านคุณก็จะยิ่งอยากให้ถึงวันรับน้องเร็ว ๆ แน่นอน นิยายที่ติดมาวันนี้ก็คือ “พี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ” ผลงานของนักเขียนนามปากกาล้านนาที ที่จะพาคุณมารู้จักกับความรักใส ๆ วัยมหาวิทยาลัย หากพร้อมแล้วไปอ่านรีวิวกันเลย เรื่องย่อนิยาย “พี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ” นิยาย “พี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของ “อ้อมแอ้ม” คุณหนูผู้เป็นโรคภูมิแพ้สารพัดสิ่งที่สามารถสอบติดคณะเกษตรในฝันได้สำเร็จ และเธอก็มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะต้องเรียนจบให้ได้และกลับมาช่วยครอบครัวทำไร่องุ่นให้ได้ แต่จะทำอย่างไรในเมื่อชีวิตมหาวิทยาลัยไม่ได้สวยหรูโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด เพราะนอกจากการรับน้องภาคปฏิบัติที่เป็นพื้นฐานในคณะที่ว่ายากเย็นจนทำให้คนอื่นมองเธอเป็นตัวซวย ขี้โรคประจำคณะไปแล้ว อ้อมแอ้มยังต้องเจอกับ “พี่ชมพู” หัวหน้าว้ากมหาโหดโคตรดุที่เอาแต่จ้องจะสั่งลงโทษให้เธอด้วยสิ่งที่เธอรังเกียจมากที่สุด แต่เมื่อได้รู้จักกับเขาจริง ๆ ก็ค้นพบว่าพี่ว้ากคนนี้ดูจะน่ารักเป็นพิเศษจนหัวใจเธอหวั่นไหวเฉยเลยแฮะ ความน่าสนใจของนิยาย “พี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ” นิยาย “พี่ว้ากคนนี้น่ารักเป็นพิเศษ” ทำให้เราได้เห็นบทบาทของการรับน้องเมืองไทยที่มีทั้งความฮา สนุกสนาน และอึดอัดด้วยกฎระเบียบ ความดุของรุ่นพี่ แต่ที่พวกเขาต้องว้ากก็เพราะอยากให้รุ่นน้องกลัวและมีความเคารพรุ่นพี่ แล้วรุ่นพี่จะช่วยให้เฟรชชี่ใหม่อย่างเรารู้จักการใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยและปรับตัวได้เองแม้ในความรู้สึกของน้องเข้าใหม่อย่างเรา ๆ จะแอบไม่ชอบก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วรุ่นพี่ทุกคนไม่ได้ดุขนาดนั้น ตรงกันข้ามบางคนก็มีนิสัยยิ้มง่าย เฟรนด์ลี่ ขี้อ้อน ขี้ตื๊อเหมือนพี่ชมพูของน้องอ้อมแอ้มไง จากดราม่าช่วงแรก พอหมดลุคพี่ว้ากก็กลายเป็นเพียงพี่แมวเหมียวสำเนียงสุพรรณเท่านั้น […]

Helliday ศพสันต์วันหยุด นิยายที่จะทำให้คุณไม่อยากมีวันหยุดอีกเลย

วันหยุด เป็นเหมือนวันฟ้าประทานที่ทุกคนรอคอย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้พักผ่อนจากการทำงานที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งสัปดาห์ วันหยุดสำหรับบางคนเพียงแค่นอนอยู่บ้าน ดูหนัง ฟังเพลง แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่สำหรับบางคนที่ชื่นชอบการออกไปเที่ยวที่ต่าง ๆ นั่นก็เป็นความสุขอีกแบบหนึ่ง แต่ความสุขแบบหลังนี้ถ้าใครที่ได้อ่านนิยายเรื่อง Helliday แล้วล่ะก็ บอกได้คำเดียวว่าคุณแทบจะไม่กล้าลุกออกจากบ้านไปเที่ยวไหนอีกเลย เรื่องย่อ Helliday Helliday หนึ่งในนิยายเล่มโปรดของฉัน จากเจ้าของนามปากกาชื่อดังอย่าง ภาคินัย นักเขียนนิยายแนวสยองขวัญมือต้น ๆ ของไทย สำหรับเรื่องนี้จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวสยองขวัญช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เมื่อแพทริเซีย หญิงสาวคนหนึ่งที่มีวิถีชีวิตเหมือนคนทั่วไป ที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยแล้วต้องการออกไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด เธอจึงเลือกเดินทางไปบ้านของแฟนหนุ่มที่อยู่ต่างจังหวัด แต่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการตัดสินใจไปเที่ยววันหยุดครั้งนี้จะนำพาตัวเธอเองไปสู่เรื่องราวขนหัวลุกจนแทบจะหาทางออกไม่เจอ เมื่อบ้านของแฟนหนุ่มนั้นมีเรื่องราวแปลก ๆ บรรยากาศและผู้คนที่มองเธอด้วยสายตาแปลกราวกับเธอเคยทำอะไรบางอย่างกับพวกเขา จนเธอพยายามที่จะหาทางออกจากที่นี่ แต่เธอไม่สามารถกลับออกไปได้ รีวิวหลังอ่านเรื่อง Helliday (อาจมีสปอยด์เนื้อหาบางส่วน) ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ฉันเป็นแฟนหนังหรือนิยายแนวนี้อยู่แล้ว ยิ่งเนื้อเรื่องตรงคำโปรยที่ยิ่งชวนให้หลงใหล ทำให้ฉันตัดสินใจแบบไม่ลังเลเลยว่าจะต้องซื้อเล่มนี้ให้ได้  สำหรับนิยายเล่มนี้ยังคงเล่าได้ดีในส่วนของบรรยากาศของเนื้อเรื่อง ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นจุดเด่นของภาคินัยที่หาตัวจับยากในเรื่องนี้ บรรยากาศที่ทำเอาคนอ่านขนลุกซู่ตั้งแต่นางเอกเริ่มย่างเท้าเข้าเขตหมู่บ้านแห่งนี้ ภาพผู้คนที่สามารถนึกภาพความหลอนตามได้ขณะที่อ่าน แต่จุดด้อยที่เพียงอ่านบรรทัดแรกก็รู้เลยว่านี่แหละภาคินัย คือจุดหักมุมหรือปริศนาเรื่องราวทั้งหมดที่ตัวละครเอกแทบทุกเรื่องของภาคินัยต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับดวงวิญญาณเหล่านี้ และจุดจบของตัวเอกที่แทบจะมีจุดจบเดียวกันทุกเรื่อง ทำให้ไม่ต้องเอาใจช่วยตัวเอกเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่าตอนจบต้องเป็นยังไง แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม นิยายเรื่องนี้ก็ไม่ได้แย่จนเกิดไป ออกจะอ่านสนุกเสียด้วยซ้ำ สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านนิยายของภาคินัยมาก่อน ต้องอ่านสนุกมากแน่ […]

[รีวิว] นิยายเรื่อง Time หมุนเวลาตาย

คุณเคยแอบคิดหรือไม่ ถ้าวันหนึ่ง เวลาของคุณขาดหายไปจนทำให้คุณพลาดในการทำบางสิ่ง แล้วถ้าบางสิ่งนั้นมันมีค่าและสำคัญกับชีวิตคุณมากที่สุด เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย นี่เป็นจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้ Time หมุนเวลาตาย  Time หมุนเวลาตาย เป็นนิยายขึ้นหิ้งนอกกระแสอีกเล่มหนึ่งของ ภาคินัย นักเขียนนิยายสยองขวัญมือทองของไทย ที่ว่าเป็นนิยายขึ้นก็เพราะเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างแปลกจากนิยายของเขาเล่มอื่น เพราะเรื่องนี้ไม่มีผี ไม่มีวิญญาณแบบนิยายเรื่องอื่นของเขา และตอนจบที่แฟนนิยายต่างยกให้เป็นตำนานของภาคินัยเลย ส่วนที่ว่านอกกระแสก็เพราะว่านิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นที่พูดถึงในวงการนักอ่านมากนัก ไม่ได้ถูกแนะนำเป็นนิยายน่าอ่านของภาคินัย และได้รับดาวค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับนิยายเรื่องอื่น เช่น 7 วันจองเวร นางคุก สาปอัปสรา แต่ถึงจะอย่างไรก็ดี เรื่องนี้ถ้าไม่อ่านถือว่าพลาดมาก Time หมุนเวลาตาย เป็นเรื่องราวของเมลานี หญิงสาวสวยไฮไซ ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา อยู่ในสังคมชั้นสูง เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง แต่จู่ ๆ วันหนึ่งอุบัติเหตุกลับทำชีวิตเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเธอขับรถผ่านอุโมงค์แห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอุโมงค์แห่งนี้มีการคลาดเคลื่อนของกาลเวลา ทำให้เวลาของเธอหายไป 1 ปีเต็ม เธอจึงได้รับขอพิเศษหนึ่งอยากมาจากใครบางคนที่เป็นผู้ควบคุมกาลเวลานั้นด้วยกาให้ “สร้อยนาฬิกา” มาเป็นของที่แทนคำขอโทษจากผู้คุมเวลา ซึ่งความพิเศษของสร้อยเส้นนั้น เธอสามารถหมุนเวลาได้ 5 ครั้ง ซึ่งจะหมุนไปอนาคตหรือย้อนกลับอดีตก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าการหมุนเวลา 1 […]

หลากมิติประชาธิปไตยไทย : รวมบทความและปาฐกถาทางวรรณกรรม

หนังสือเรื่อง หลากมิติประชาธิปไตยไทย : รวมบทความและปาฐกถาทางวรรณกรรม เป็นหนังสือรวมบทความของคณะวิจัย 10 บทและบทปาฐกถา 4 บท จากบทนำเชิงสังเคราะห์ของหนังสือ กล่าวไว้ว่าบทความทั้งหมด เป็นมุมมองของกลุ่มนักวิจัยทางวรรณศิลป์ที่มองความเป็นประชาธิปไตยในมิติทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างน่าสนใจ โดยศึกษาผ่านตัวบทวรรณกรรมประเภทเรื่องสั้นที่เขียนขึ้นหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ให้เห็นควมเป็นประชาธิปไตยในสังคมไทยที่นำเสนอผ่านทัศนะของนักเขียน  ผู้ทำหน้าที่เฝ้าระวัง เป็กปากเสียงให้ประชาชน และกล่อมเกลาสังคม  ปรากฏการณ์ผ่านงานวรรณกรรมแสดงให้เห็นว่าจิตวิญญาณแห่งความเป็นประชาธิปไตยดำรงอยู่ในชีวิตและสังคมไทยอย่างมีพลวัตและต้องการแรงกระตุ้นให้มีพลังเข้มข้นด้วยปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เขียนกับผู้อ่าน มุมมองเรื่องประชาธิปไตยในวรรณกรรม จากหนังสือ หลากมิติประชาธิปไตยไทย : รวมบทความและปาฐกถาทางวรรณกรรม 1. ประชาธิปไตยในบ้าน : ภาพเสนอในเรื่องสั้นร่วมสมัย 2. โลกใหม่แห่งประชาธิปไตยไทยในเรื่องสั้น : การใช้สัญลักษณ์และตีความ 3. เสรีภาพในเรื่องสั้นสะท้อนจิตวิญญาณประชาธิปไตย 4. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนชายขอบ : ภาพสะท้อนจิตวิญญาณประชาธิปไตยในเรื่องสั้น 5. จิตสาธารณะและสำนึกพลเมืองในเรื่องสั้นสะท้อนจิตวิญญาณประชาธิปไตย 6. การเคารพกฎเกณฑ์กติกาและการมีภารดรภาพ : วิถีแห่งสันติประชาธิปไตยในเรื่องสั้น 7. เมื่อสตรีถามหาประชาธิปไตยในสังคมปิตาธิปไตย 8. พลวัตการตามหาประชาธิปไตยของคนหนุ่มสาว : ศึกษาจากเรื่องสั้นไทย พ.ศ. 2516-ปัจจุบัน 9. […]