พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2 ภาคต่อที่สรุปทุกปมของเรื่องราวทั้งหมด

พรหมลิขิต บุพเพสันนิวาส 2 ภาคต่อที่สรุปทุกปมของเรื่องราวทั้งหมด

หลังจากละครอวสานไปแล้ว 2 ปีกว่าสำหรับละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ละครที่สร้างปรากฏการณ์ออเจ้าที่ดังที่สุดของประเทศไทยในปีนั้น และได้สร้างเรตติ้งสูงที่สุดของไทยไปแล้ว จนกระทั่งคุณหน่องอรุโณชาได้ออกมาประกาศว่าจะมีภาคต่อของบุพเพสันนิวาส เป็นบุพเพสันนิวาสภาค 2 ชื่อเรื่องว่า “พรหมลิขิต ซึ่งทางคุณรอมแพง เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้ก็แต่งเสร็จและวางจำหน่ายไปแล้วเมื่อปี 2562 

เรื่องย่อ พรหมลิขิต

วันเวลาผ่านไปหลายปี จนกรุงศรีอยุธยาเข้าสู่รัชสมัยของพระเจ้าท้ายสระ บ้านเมืองสงบร่มเย็น พ่อริด พ่อเรื่อง ลูกชายฝาแฝดของคุณหญิงกาละเกดและหมื่นสุนทรเทวาได้เติบใหญ่เป็นชายหนุ่มรูปงาม มีใบหน้าละหม้ายคล้ายผู้เป็นพ่อราวกับฝาแฝด  หมื่นมมหาฤทธิ์ได้พบกับหญิงสาวหน้าตาคล้ายกับคนเป็นแม่ ขณะที่เขาไปที่หลุมเก็บพระคัมภีร์กฤษณะกาลีที่ท้ายสวนของยายกุย หญิงผู้นั้นมีกิริยาท่าทางคำพูดคำจาที่คล้ายกับแม่กาละเกด แต่แตกต่างจากชาวกรุงศรี ทั้งสองต่างยื้อกันเรื่องคัมภีร์กฤษณะการีว่าเป็นของตน ทางฝ่ายแม่หญิงผู้นั้นก็อ้างว่าเธอต้องการคัมภีร์เล่มนั้นเพื่อที่จะได้กลับไปที่ที่เธอจากมาได้ ทั้งคู่จึงจำเป็นต้องไขปัญหาและที่มาเหล่านี้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และความลับบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องชาติภพของแต่ละคนก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยทีละน้อย และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในเรื่องพรหมลิขิตนี้

ความรู้สึกหลังได้อ่านนิยาย พรหมลิขิต

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราคาดหวังกับนิยายเรื่องนี้พอสมควร เพราะภาคแรกถือว่าทำได้ดีจนขึ้นหิ้งเลยทีเดียว มาภาค 2 คงได้แต่หวังว่าเนื้อหาจะไม่แป๊กเหมือนกับพวกละครภาคต่อเรื่องอื่น ๆ 

สำหรับเรื่องนี้ ประเด็นหลักของเรื่องจะแตกต่างจากบุพเพสันนิวาสอย่างสิ้นเชิง เพราะบุพเพจะเน้นที่เรื่องเกี่ยวกับการเมืองสมัยพระนารายด์เป็นหลัก ส่วนพรหมลิขิตจะไม่ค่อยมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำไร่ทำสวนของนางเอกมากกว่า ส่วนบุคลิกของนางเอกก็แตกต่างจากแม่กาละเกด ซึ่งรายนั้นเขาจะเฮฮา สนุกสนานเหมือนเด็ก เก่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยา ส่วนพุดตานจะเป็นคนที่อารมณ์ร้ายกว่า (แต่ไม่ได้ร้ายนะ) จะไม่ค่อยมีความรู้ทางประวัติศาสตร์เท่าไหร่ แต่จะเก่งด้านการปลูกผัก แต่ทั้งคู่ก็ทำอาหารเก่งนะจ๊ะ (แอบสปอยด์ว่าภาคนี้มีการทำต้มยำกุ้งด้วย) 

ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็สนุกประมาณนึง เดินเรื่องช้าไปหน่อย ฉากเลิฟซีนพระนางไม่ค่อยมี แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเอามาทำเป็นละคร คาดว่าจะต้องปรับแต่งให้สนุกมากขึ้นแน่นอน